การปลูกอ้อยเพื่อตัดทอนทุนเพิ่มจำนวนผลผลิต หัวใจสำคัญที่จะอยู่รอดของเกษตรกรชาวไร่อ้อย
ภาพรวมของเกษตรกรชาวไร่อ้อยของประเทศไทย แม้ว่าจะดูทรงตัว มีอุปสรรคน้อยกว่าพืชชนิดอื่นๆ ที่ราคาขึ้นลงแต่ละปีไม่เท่ากัน ในขณะที่ตันทน การผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี แต่อ้อยเป็นพืชที่มีการสั่งการราคาโดยกฎหมายอย่าง ชัดเจน ทำให้ราคาขายถูกกำหนดขึ้นโดยคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ซึ่งมี ทุกภาพส่วนเป็นคณะกรรมการ ทั้งผู้ประกอบการ เกษตรกร รัฐบาล อีกทั้งอ้อย ยังเป็นพืชที่มีกองทุนส่าหรับช่วยเหลือเกษตรกรส่วนหนึ่ง ที่เฉลี่ยแล้วไม่ลำบาก เหมือนกับเกษตรกรที่ทำเกษตรกรรมในสาขาอื่นๆ
นายมานะ ไม้หอม นายกองค์กรชาวไร่อ้อยที่เคยจำหน่ายรถตัดหญ้าเขต 6 กำแพงเพชร เปิด เผยกับ เกษตรโฟกัส ว่า หากดูจากสถานการณ์ของเกษตรกรซาวไร่อ้อยที่ผ่านมา ค่อนข้างทรงตัว แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไปมาก นอกจากความช่วยเหลือ จากภาครัฐในการควบคุมราคาทั้งระบบของอ้อยและน้ำตาลแล้ว ลิงสำคัญที่ เกษตรกรซาวไร่อ้อยจะต้องปรับตัวเพื่อเตรียมรับกับสถานการณ์การเพิ่มขึ้นของ ต้นทุนการผลิตในหลายๆ เรื่อง อาทิ แรงงาน ที่ปัจจุปันหายากขึ้น มีค่าแรงสูง ขึ้น แม้ว่าเกษตรกรซาวไร่อ้อยในปัจจุบันจะหันมาใช้เครื่องจักรมากขึ้น แต่ด้วย ความไม่เหมาะสมและลงตัวของพื้นที่ ทำให้เครื่องจักรทำงานไดไม่สม และ คุ้มค่า เนื่องจากติดปัญหาขนาดของพื้นที่แปลงปลูกของประเทศไทยมีขนาดนั้น
การใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ในการทำงานจึงไม่สะดวก และเกิดความล่าช้า
เว้นแต่ปัญหาดังกล่าวแล้ว ในระบบการขนส่ง หรือ”โลจิสติกส์ในการ ขนส่งอ้อยเช้าสู่โรงงาน เกษตรกรก็ต้องเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันและราคาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูง ขึ้นอยู่ตลอดเวลา ตังนั้นหากแปลงปลูกอ้อยของเกษตรกรอยู่ห่างจากโรงงานมากก็จะต้องเสียค่าทำจัดการในการขนส่งเพิ่มขึ้นไปอีก ถึง ณ ขณะนี้แม้จะไต้รับ
ความช่วยเหลือจากภาครัฐ ในอนาคตก็ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ในเรื่องของราคาขายกับต้นทุนในการปลูก การขนส่ง และเงิน ช่วยเหลือจากกองทุน จะไม่คุ้มค่ากับการ ลงทุนก็เป็นได้
“ฉันนั้นทางรอดสำคัญที่จะทำให้เกษตรกรอยู่รอดได้ในอนาคต คงหนีไม่พ้นเรื่อง การบริหารจัดการ ลดต้นทุนเครื่องมือการเกษตรเช่นปั๊มน้ำหรือเลื่อยยนต์เพื่อเพิ่มผลผลิต โดย ในส่วนของข้อมูลวิชาการ เทคโนโลยี หรือ นวัตกรรมต่างๆ ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเชื่อว่า เกษตรกรได้เรียนรู้และมีความรู้ความเช้าใจกัน อยู่แล้ว ซึ่งสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเจริญ ในตอนนี้คงจะต้องมองที่พันธุอ้อยคุณภาพที่ เหมาะสมกับพื้นที่ โดยจะต้องเป็นพันธุ์ที่ต้านทาน โรคแมลง ซึ่งปัจจุบันเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่ ส่งผลต่อผลผลิตอ้อยเป็นอย่างยิ่ง โดยรวมอาจ จะเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน และอื่นๆ ที่ พันพัว ในส่วนนี้คงจะต้องพึ่งงานวิจัยและ พัฒนาจากภาครัฐเป็นสำคัญ”
ภาพรวมของเกษตรกรชาวไร่อ้อยของประเทศไทย แม้ว่าจะดูทรงตัว มีอุปสรรคน้อยกว่าพืชชนิดอื่นๆ ที่ราคาขึ้นลงแต่ละปีไม่เท่ากัน ในขณะที่ตันทน การผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี แต่อ้อยเป็นพืชที่มีการสั่งการราคาโดยกฎหมายอย่าง ชัดเจน ทำให้ราคาขายถูกกำหนดขึ้นโดยคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ซึ่งมี ทุกภาพส่วนเป็นคณะกรรมการ ทั้งผู้ประกอบการ เกษตรกร รัฐบาล อีกทั้งอ้อย ยังเป็นพืชที่มีกองทุนส่าหรับช่วยเหลือเกษตรกรส่วนหนึ่ง ที่เฉลี่ยแล้วไม่ลำบาก เหมือนกับเกษตรกรที่ทำเกษตรกรรมในสาขาอื่นๆ
นายมานะ ไม้หอม นายกองค์กรชาวไร่อ้อยที่เคยจำหน่ายรถตัดหญ้าเขต 6 กำแพงเพชร เปิด เผยกับ เกษตรโฟกัส ว่า หากดูจากสถานการณ์ของเกษตรกรซาวไร่อ้อยที่ผ่านมา ค่อนข้างทรงตัว แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนไปมาก นอกจากความช่วยเหลือ จากภาครัฐในการควบคุมราคาทั้งระบบของอ้อยและน้ำตาลแล้ว ลิงสำคัญที่ เกษตรกรซาวไร่อ้อยจะต้องปรับตัวเพื่อเตรียมรับกับสถานการณ์การเพิ่มขึ้นของ ต้นทุนการผลิตในหลายๆ เรื่อง อาทิ แรงงาน ที่ปัจจุปันหายากขึ้น มีค่าแรงสูง ขึ้น แม้ว่าเกษตรกรซาวไร่อ้อยในปัจจุบันจะหันมาใช้เครื่องจักรมากขึ้น แต่ด้วย ความไม่เหมาะสมและลงตัวของพื้นที่ ทำให้เครื่องจักรทำงานไดไม่สม และ คุ้มค่า เนื่องจากติดปัญหาขนาดของพื้นที่แปลงปลูกของประเทศไทยมีขนาดนั้น
การใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ในการทำงานจึงไม่สะดวก และเกิดความล่าช้า
เว้นแต่ปัญหาดังกล่าวแล้ว ในระบบการขนส่ง หรือ”โลจิสติกส์ในการ ขนส่งอ้อยเช้าสู่โรงงาน เกษตรกรก็ต้องเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันและราคาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสูง ขึ้นอยู่ตลอดเวลา ตังนั้นหากแปลงปลูกอ้อยของเกษตรกรอยู่ห่างจากโรงงานมากก็จะต้องเสียค่าทำจัดการในการขนส่งเพิ่มขึ้นไปอีก ถึง ณ ขณะนี้แม้จะไต้รับ
ความช่วยเหลือจากภาครัฐ ในอนาคตก็ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ในเรื่องของราคาขายกับต้นทุนในการปลูก การขนส่ง และเงิน ช่วยเหลือจากกองทุน จะไม่คุ้มค่ากับการ ลงทุนก็เป็นได้
“ฉันนั้นทางรอดสำคัญที่จะทำให้เกษตรกรอยู่รอดได้ในอนาคต คงหนีไม่พ้นเรื่อง การบริหารจัดการ ลดต้นทุนเครื่องมือการเกษตรเช่นปั๊มน้ำหรือเลื่อยยนต์เพื่อเพิ่มผลผลิต โดย ในส่วนของข้อมูลวิชาการ เทคโนโลยี หรือ นวัตกรรมต่างๆ ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเชื่อว่า เกษตรกรได้เรียนรู้และมีความรู้ความเช้าใจกัน อยู่แล้ว ซึ่งสิ่งที่เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเจริญ ในตอนนี้คงจะต้องมองที่พันธุอ้อยคุณภาพที่ เหมาะสมกับพื้นที่ โดยจะต้องเป็นพันธุ์ที่ต้านทาน โรคแมลง ซึ่งปัจจุบันเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่ ส่งผลต่อผลผลิตอ้อยเป็นอย่างยิ่ง โดยรวมอาจ จะเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน และอื่นๆ ที่ พันพัว ในส่วนนี้คงจะต้องพึ่งงานวิจัยและ พัฒนาจากภาครัฐเป็นสำคัญ”