แม่แรง คือ วัสดุอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่ในการเพิ่มเเรงในการยกรถยนต์ เพื่อทำการซ่อมแซมบำรุงส่วนต่างๆของรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นล้อรถยนต์ ช่วงล่างของรถยนต์ หรือใช้ในการ
สำรวจตัวถังของรถยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงในการทำงานเกี่ยวกับช่วงล่างของรถยนต์ เพื่อให้การทำงานรวดเร็วขึ้น ตามปกติตัวถังและโครงรถยนต์ จะต้องทำการซ่อมเนื่องด้วย
อุบัติเหตุ ทำให้โครงตัวถังรถเกิดการโค้งงอ บิดตัว แตกหัก หรือฉีกขาด ซึ่งจะต้องทำการซ่อมบำรุงบริเวณส่วนที่โค้งงอ บิดตัว ให้ตรงเหมือนเดิม โดยใช้อุปกรณ์ที่ให้กำลัง (Power
Tool) สำหรับดึง และดันซึ่งแล้วแต่ประเภทของงานที่จะซ่อมนั้นๆ
แม่แรงแบ่งออกเป็น 2 ตระกูลหลักๆ ด้วยกัน
1. แม่แรงระบบไฮดรอลิก
แม่แรงชนิดไฮดรอลิก ยอดเยี่ยมตรงที่ทำให้คนใช้เบาแรง และสามารถยกน้ำหนักได้เยอะแม้จะมีขนาดตัวไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีข้อบกพร่องอยู่ตรงที่โอริงของระบบไฮดรอลิกอาจจะรั่ว
ไหล หากนำไปใช้ยกน้ำหนักที่มากเกินกว่าจะรับไหว หรือเมื่อถูกนำไปเก็บไว้ในลักษณะที่น้ำมันไฮดรอลิกไหลรั่วออกมาได้ง่าย และมีขีดจำกัดที่หากต้องการยกระดับให้สูงมากขึ้น จะ
ต้องใช้แม่แรงไฮดรอลิกที่มีขนาดใหญ่กว่าแม่แรงชนิดอื่น
2. แม่แรงระบบกลไก
แม่แรงประเภทกลไกนั้นมีข้อดี คือ ความแข็งแรงสามารถพกพาได้ง่าย และการดูแลรักษาทำเพียงแค่หล่อลื่นกลไกเท่านั้นก็ใช้งานได้ง่ายๆ สามารถยกระดับของตัวรถได้สูงตามที่
ความยาวของแกนถูกสร้างเอาไว้ แต่มีจุดบกพร่อง คือ เมื่อใช้งานต้องออกแรงมากสำหรับการยกน้ำหนัก และโดยมากแม่แรงแบบกลไกจะมีขาเดียวทำให้ไม่ค่อยแข็งแรงเกิดอันตราย
ง่ายเมื่อใช้งานยกน้ำหนัก
วิธีการเลือกซื้อแม่แรง กับความเหมาะเจาะในการใช้งาน
แม่แรงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานในการจากทั่วไป หากว่ารถที่ท่านใช้อยู่มีบริเวณสำหรับการเก็บพอเพียง คือ แม่แรงแบบไฮดรอลิกประเภทที่เรียกกันว่า “แม่แรงตะเข้”
หรือแม่แรงชนิดไฮดรอลิกช่วยเบาแรงยก ที่มีฐานกว้างและมีล้อสำหรับลากเคลื่อนที่นั่นเอง เพราะใช้งานง่าย เบาแรง และมีความปลอดภัยสูงที่สุด
ถ้าหากไม่มีแม่แรงชนิดดังกล่าวทุกท่านก็สามารถใช้แม่แรงที่มีติดมาประจำรถได้ แต่ต้องทำความเข้าใจวิธีการใช้จากคู่มือให้ถูกต้อง รวมทั้งต้องดูจากหนังสือคู่มือให้แน่ใจในจุดที่จะ
ต้องใช้แม่แรงสอดเข้าไปเพื่อยกตัวรถด้วย เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับรถของคุณได้ แต่เหนืออื่นใดคือต้องมั่นอกมั่นใจว่าเมื่อท่านใช้แม่แรงยกรถของท่านแล้ว รถ
จะต้องไม่ไหลเขยื้อนหรือแม่แรงร่วงจากจุดรองรับ จนทำให้เกิดความเสียหายหรือเกิดการเจ็บขึ้นมาได้
วิธีการใช้งานแม่แรงอย่างไม่เป็นอันตราย
วิธีการขึ้นแม่แรงที่อย่างปลอดภัย คือ หากท่านต้องขึ้นแม่แรงที่ล้อหน้าด้านซ้าย ให้เข้าเกียร์เดินหน้าหรือเกียร์หนึ่งเอาไว้พร้อมทั้งดึงเบรกมือด้วย และให้เอาไม้หน้าสามหรือหน้ากว้าง
กว่านั้นไปหนุนที่หลังของล้อหลังด้านขวา เป็นการป้องกันรถไหลเมื่อแม่แรงยกหน้ารถลอยขึ้น เช่นเดียวกันเมื่อต้องการขึ้นแม่แรงที่ล้อหลังด้านขวา ให้เข้าเกียร์ถอยหลังและดึงเบรก
มือเอาไว้ พร้อมทั้งเอาของไปหนุนที่ด้านหน้าของล้อหน้าด้านซ้าย
ข้อควรระวังขณะใช้แม่แรง
สิ่งควรระวังก็คือวัสดุที่นำมาหนุนที่ล้อป้องกันรถไหล หรือนำมารองด้านใต้พื้นของแม่แรง เพื่อป้องกันการทรุดตัวของแม่แรงนั้น ไม่ควรเป็นวัตถุที่แข็งแต่บอบบาง แตกหักง่าย เช่น
อิฐบล็อก อิฐแดง หรือหินปูน เป็นต้น การใช้แม่แรงยกรถนั้นจะว่าง่ายก็ง่าย แต่หากจะใช้ให้ได้ผลและมีความปลอดภัยสูง ก็ต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวิธีใช้เอาไว้เผื่อเวลาเร่งด่วน
ด้วยครับ
สำรวจตัวถังของรถยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงในการทำงานเกี่ยวกับช่วงล่างของรถยนต์ เพื่อให้การทำงานรวดเร็วขึ้น ตามปกติตัวถังและโครงรถยนต์ จะต้องทำการซ่อมเนื่องด้วย
อุบัติเหตุ ทำให้โครงตัวถังรถเกิดการโค้งงอ บิดตัว แตกหัก หรือฉีกขาด ซึ่งจะต้องทำการซ่อมบำรุงบริเวณส่วนที่โค้งงอ บิดตัว ให้ตรงเหมือนเดิม โดยใช้อุปกรณ์ที่ให้กำลัง (Power
Tool) สำหรับดึง และดันซึ่งแล้วแต่ประเภทของงานที่จะซ่อมนั้นๆ
แม่แรงแบ่งออกเป็น 2 ตระกูลหลักๆ ด้วยกัน
1. แม่แรงระบบไฮดรอลิก
แม่แรงชนิดไฮดรอลิก ยอดเยี่ยมตรงที่ทำให้คนใช้เบาแรง และสามารถยกน้ำหนักได้เยอะแม้จะมีขนาดตัวไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีข้อบกพร่องอยู่ตรงที่โอริงของระบบไฮดรอลิกอาจจะรั่ว
ไหล หากนำไปใช้ยกน้ำหนักที่มากเกินกว่าจะรับไหว หรือเมื่อถูกนำไปเก็บไว้ในลักษณะที่น้ำมันไฮดรอลิกไหลรั่วออกมาได้ง่าย และมีขีดจำกัดที่หากต้องการยกระดับให้สูงมากขึ้น จะ
ต้องใช้แม่แรงไฮดรอลิกที่มีขนาดใหญ่กว่าแม่แรงชนิดอื่น
2. แม่แรงระบบกลไก
แม่แรงประเภทกลไกนั้นมีข้อดี คือ ความแข็งแรงสามารถพกพาได้ง่าย และการดูแลรักษาทำเพียงแค่หล่อลื่นกลไกเท่านั้นก็ใช้งานได้ง่ายๆ สามารถยกระดับของตัวรถได้สูงตามที่
ความยาวของแกนถูกสร้างเอาไว้ แต่มีจุดบกพร่อง คือ เมื่อใช้งานต้องออกแรงมากสำหรับการยกน้ำหนัก และโดยมากแม่แรงแบบกลไกจะมีขาเดียวทำให้ไม่ค่อยแข็งแรงเกิดอันตราย
ง่ายเมื่อใช้งานยกน้ำหนัก
วิธีการเลือกซื้อแม่แรง กับความเหมาะเจาะในการใช้งาน
แม่แรงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานในการจากทั่วไป หากว่ารถที่ท่านใช้อยู่มีบริเวณสำหรับการเก็บพอเพียง คือ แม่แรงแบบไฮดรอลิกประเภทที่เรียกกันว่า “แม่แรงตะเข้”
หรือแม่แรงชนิดไฮดรอลิกช่วยเบาแรงยก ที่มีฐานกว้างและมีล้อสำหรับลากเคลื่อนที่นั่นเอง เพราะใช้งานง่าย เบาแรง และมีความปลอดภัยสูงที่สุด
ถ้าหากไม่มีแม่แรงชนิดดังกล่าวทุกท่านก็สามารถใช้แม่แรงที่มีติดมาประจำรถได้ แต่ต้องทำความเข้าใจวิธีการใช้จากคู่มือให้ถูกต้อง รวมทั้งต้องดูจากหนังสือคู่มือให้แน่ใจในจุดที่จะ
ต้องใช้แม่แรงสอดเข้าไปเพื่อยกตัวรถด้วย เนื่องจากอาจจะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นกับรถของคุณได้ แต่เหนืออื่นใดคือต้องมั่นอกมั่นใจว่าเมื่อท่านใช้แม่แรงยกรถของท่านแล้ว รถ
จะต้องไม่ไหลเขยื้อนหรือแม่แรงร่วงจากจุดรองรับ จนทำให้เกิดความเสียหายหรือเกิดการเจ็บขึ้นมาได้
วิธีการใช้งานแม่แรงอย่างไม่เป็นอันตราย
วิธีการขึ้นแม่แรงที่อย่างปลอดภัย คือ หากท่านต้องขึ้นแม่แรงที่ล้อหน้าด้านซ้าย ให้เข้าเกียร์เดินหน้าหรือเกียร์หนึ่งเอาไว้พร้อมทั้งดึงเบรกมือด้วย และให้เอาไม้หน้าสามหรือหน้ากว้าง
กว่านั้นไปหนุนที่หลังของล้อหลังด้านขวา เป็นการป้องกันรถไหลเมื่อแม่แรงยกหน้ารถลอยขึ้น เช่นเดียวกันเมื่อต้องการขึ้นแม่แรงที่ล้อหลังด้านขวา ให้เข้าเกียร์ถอยหลังและดึงเบรก
มือเอาไว้ พร้อมทั้งเอาของไปหนุนที่ด้านหน้าของล้อหน้าด้านซ้าย
ข้อควรระวังขณะใช้แม่แรง
สิ่งควรระวังก็คือวัสดุที่นำมาหนุนที่ล้อป้องกันรถไหล หรือนำมารองด้านใต้พื้นของแม่แรง เพื่อป้องกันการทรุดตัวของแม่แรงนั้น ไม่ควรเป็นวัตถุที่แข็งแต่บอบบาง แตกหักง่าย เช่น
อิฐบล็อก อิฐแดง หรือหินปูน เป็นต้น การใช้แม่แรงยกรถนั้นจะว่าง่ายก็ง่าย แต่หากจะใช้ให้ได้ผลและมีความปลอดภัยสูง ก็ต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับวิธีใช้เอาไว้เผื่อเวลาเร่งด่วน
ด้วยครับ